นับเป็นข่าวดีและน่าภาคภูมิใจของไทยทั้งทั้งประเทศ ที่อยู่เนสโกประกาศขึ้นทะเบียนจารึก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า วัดโพธิ์ เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of The World) ในบัญชีนานาชาติ
วัดโพธิ์ เดิมชื่อวัดโพธราม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงเทพฯเป็นราชธานีและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บรูณะปฎิสังขรณ์วัดโพธราม เมื่อปี 2331 แล้วพระราชทานชื่อว่าวัด พระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น พระเชตุพนวิมลมังคลาราม
จุดเด่นของวัดโพธิ์ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการเดินทางมาวัดโพธิ์ต้องดูต้องชม คือ พระวิหารพระพุทธไสยาส จารึกฤาษีดัดตน ตำราแพทย์ฉบับหลวง ที่สำคัญวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งโรงเรียนแพทย์แผนโบราณและการนวดแผนโบราณ ที่มีชื่อเสียงก้องโลก
ถึงจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงามของวัดแห่งนี้ต่อเดือนจำนวนมาก ทำให้อาชีพหนึ่งในวัดแห่งนี้รู้สึกคึกคักและมีรายได้เข้ากระเป๋านั้นก็คือ ไกด์หรือมัคคุเทศก์ในวัดโพธิ์ นั้นเอง แต่ปัจจุบันนี้รายได้กลับลดน้อยลงกว่าเดิม
ฉันได้มีโอกาสได้พูดคุยกับไกด์คนหนึ่งที่เป็นไกด์ประจำวัดโพธิ์ คือ ลุงนะนั้นเอง ลุงนะทำงานเป็นไกด์มาตั้งแต่อายุ 21 ปีจนมาถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 30 ปี ลุงนะเราให้ฟังว่า “ลุงเรียนจบรัฐศาสตร์ (การทูต)จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง กว่าจะจบก็เล่นเอาหลายปีเหมือนกันเพราะแกบอกว่าแกเป็นคนหัวทื่อ พอแกเรียนจบแกก็ไปสอบเป็นนักการทูตที่จุฬาฯแต่ก็ไม่ติดจึงเบนเข็มมาสอบเป็นไกด์ที่ธรรมศาสตร์แทนแล้วก็ได้เป็นไกด์ในทุกวันนี้”
พอลุงนะสอบเป็นไกด์ได้สำเร็จแกก็ไปทำงานตามบริษัททัวร์สักพักแต่ลุงบอกว่า “ลุงเป็นคนเบื่อง่าย ไม่ชอบทำอะไรจำเจ และต้องทำงานตามคำสั่งใคร แกไม่ชอบ แล้วอีกอย่างอายุลุงก็เพิ่มขึ้นคงไม่ไหวที่ทำงานแบบนั้น ลุงจึงมาทำงานเป็นไกด์ในวัดโพธิ์ เพราะมีพระในวัดโพธิ์ที่รู้จักกันชวนมาทำ จึงได้มาเป็นไกด์ที่นี้”
ลุงนะพูดได้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่ไกด์ในวัดโพธิ์จะพูดภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศล ไกด์ในวัดโพธิ์มีทั้งหมด 14 คน จะมีการจับคิวกันแต่ละเดือนว่าใครได้คิวไหน แล้วก็เรียงกันตามคิวนั้นไม่มีการแย่งนักท่องเที่ยวกัน ลุงนะบอกว่า “จะมาทำงานกี่โมงก็ได้จะกลับกี่โมงก็ได้ตามใจเราไม่ Fix เรื่องเวลาไม่มีใครมาเป็นนายเราเพราะเราเป็นนายตัวเราเอง ถ้าเราไม่มาคิวที่เขาต่อเราเขาก็ดีใจเพราะจะเลื่อนขึ้นมา”
ฉันถามลุงนะว่าส่วนใหญ่ลุงนะจะรับลูกทัวร์ประเทศไหนประจำ ลุงนะบอกว่า “ลุงก็ต้องรับลูกทัวร์ชาวอังกฤษ และก็ญี่ปุ่นสิ เพราะลุงพูดภาษาเขาได้เนี่ย” แล้วฉันถามอีกว่าแล้วนักท่องเที่ยวชาวไทยล่ะเขาไม่จ้างไกด์หรอ ลุงนะบอกว่า “ส่วนใหญ่เขาจะไม่เอาไกด์หรอกเขาจะเดินดูของเขาเอง แล้วลุงก็ไม่อยากจะรับเพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยถามมากถามเป็นชั่วโมงเสียเวลา ให้เงินก็น้อยด้วย” และเดือนไหนที่นักท่องมาเที่ยวมากที่สุด ช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะเพราะเขาหนีหนาวมา ฉันถามลุงนะอีกว่ามีไหมวันไหนไม่ได้ลูกทัวร์เลย ลุงนะบอกว่า ปีหนึ่งจะมีครั้งถึงสองครั้ง อ้าว!!!แล้วลุงทำไงอ่ะ “ลุงก็ต้องใช้เงินเก่าเงินเก็บเอา”
ฉันถามลุงนะว่าเสน่ห์วัดโพธิ์ไหนอยู่ที่ไหน ลุงนะบอกว่า น่าจะเป็นวัดที่มีพระนอน(พระพุทธไสยาส)ที่มีองค์ใหญ่และงดงามที่สุดในประเทศไทยที่ลงลักปิดทองและก็อยู่ในวิหาร เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรก มีพระพุทธรูปมากที่สุดถึง 1,250 รูปตามพระพุทธประวัติในวันมาฆบูชา
ฉันถามลุงนะว่าดีใจไหมที่วัดโพธิ์ได้ถูกจารึกว่าเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก ลุงนะบอกว่า “ดีใจสิจะได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเยอะๆลุงได้จะมีรายได้เข้ากระเป๋า” ฉันถามลุงนะอีกว่าลุงรักอาชีพนี้ยัง ลุงนะบอกว่า “รักสิ รักเลย ถ้าไม่รักก็ทำไม่ได้”
ฉันถามลุงนะว่าไกด์ในอดีตกับปัจจุบันนี้แตกต่างกันบ้างไหม ลุงนะบอกว่า “ไม่แตกต่างเท่าไรหนักเพราะต่างก็ทำงานเพื่อหาเงินไปเป็นค่าครองชีพ”ลุงนะบอกว่าสมัยก่อนไกด์ในวัดโพธิ์บูมBoomมากเพราะเปิดประตูเดียวผิดกับปัจจุบันเปิดถึงสามประตูและด้วยพิษเศรษฐกิจโลกด้วยล่ะ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวจะเที่ยวแบบประหยัดเป็นการเซฟเงินในกระเป๋าเขาด้วย และอีกอย่างความไม่แน่นอนทางการเมืองของบ้านเรา จึงทำให้รายได้ซบเซาลงไปด้วย
ไกด์หรือมัคคุเทศก์เป็นอาชีพหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ถึงวัดโพธิ์จะได้รับการจารึกว่าเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกก็ตาม และถึงนักท่องเที่ยวจะแห่กันเข้ามาชมความงามของโพธิ์ แต่ก็มาเที่ยวกันแบบประหยัด จึงทำให้รายได้ของไกด์หรือมัคคุเทศก์ก็ลดน้อยลงตามไปด้วย เพราะต่างคนก็ต่างต้องประหยัดและเซฟในเงินกระเป๋าของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในยามเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้.
วิภาวรรณ พุทธหอม 5354006123 สาขาวารสารศาสตร์สื่อประสม คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน